โลโก้รูปสัตว์ถือว่าเป็นอีก 1 ตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับการเริ่มสร้างแบรนด์ ทุกวันนี้บริษัทต่างๆ จำนวนมากใช้โลโก้รูปสัตว์เป็นเครื่องมือทางการตลาดเพื่อดึงดูดผู้บริโภคและต่อยอดโอกาสทางธุรกิจได้มากขึ้น ที่สำคัญโลโก้สัวต์ที่นำมาใช้ต้องสื่อความหมายถึงบางสิ่งบางอย่าง พูดง่ายๆ ก็คือ ต้องมีที่มาที่ไปมีเรื่องราวสตอรี่ด้วยนั่นเอง วันนี้ Tcatstudio จึงได้รวบรวมแบรนด์ดังสุดตึงระดับโลกที่เลือกใช้โลโก้สัตว์มาโปรโมทให้กับแบรนด์ตัวเองแบบจึ้งใจ จะมีแบรนด์ไหนบ้าง ไปดูกันค่ะ

 

 

1.SWAROVSKI
ผู้นำแห่งโลกคริสตัล แบรนด์เครื่องประดับชั้นนำระดับโลกผลิตทั้งเครื่องประดับ ของขวัญ ของตกแต่งภายใน อีกทั้งยังร่วมมือกับแบรนด์แฟชั่นชั้นนำต่างๆ อีกด้วย
ซึ่งในปี 1988 แบรนด์ได้เปิดเผยโลโก้ที่สง่างามและตราตรึงใจจนมาถึงทุกวันนี้อย่างโลโก้รูปหงส์ ปัจจุบัน SWAROVSKI ปรับโฉมโลโก้หงส์ใหม่ ตัวหงส์กลับหลังหันหน้าไปอีกด้านจากที่เคยเป็น โลโก้มีรูปลักษณ์ที่เพรียวบางและลำคอหงส์ที่ยาวขึ้นอีกทั้งตัวหงส์ยังถูกล้อมรอบด้วย คริสตัลแปดเหลี่ยมคล้ายลูกกวาด แสดงให้เห็นถึง ความก้าวล้ำที่ไม่เคยหยุดนิ่งของแบรนด์ และเป็นตัวแทนแห่งความไม่สิ้นสุดอีกด้วย

 

2.CROCS
ความเป็นมาของแบรนด์ Crocs ในตอนแรกนั้นถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นรองเท้าสำหรับนักพายเรือโดยเฉพาะ เนื่องจากราองเท้ามีคุณสมบัติกันน้ำและไม่สามารถจมน้ำได้ แต่หลังจากนั้นก็มีผู้บริโภคจำนวนมากเลือกสวมใส่ Crocs เพราะว่าใส่สบาย Crocs จึงกลายเป็นแบรนด์รองเท้าชื่อดังจนถึงทุกวันนี้ โดยมีโลโก้จระเข้อันเป็นเอกลักษร์ของแบรนด์นั่นเอง โดยโลโก้เวอร์ชั่นแรกจะมีจระเข้สีเขียวที่ยิ้มแย้มดูนิสัยดีถึงแม้จะมีเขี้ยวแหลมคม ทางด้านขวาใต้ชื่อบริษัทมีสโลแกนว่า “Get a Grip” น้องจระเข้ถูกใช้เป็นโลโก้เพื่อเน้นย้ำถึงลักษณะ “ใส่ได้ทุกสภาพภูมิประเทศ” ของรองเท้า เช่นเดียวกับจระเข้ที่ปรับตัวให้เข้ากับทั้งพื้นดินและในน้ำได้อย่างสมบูรณ์แบบ หลังจากนั้นในปี 2006 โลโก้ถูกปรับเปลี่ยน ให้จระเข้ถูกลบฟันและกระดูกสันหลังที่แหลมคม และดวงตาก็กลมขึ้น น้องถูกนำไปไว้ในวงกลมที่มีพื้นหลังสีดำและมีขอบสองชั้น ส่วนคำถูกวางไว้ด้านล่างแทน ในเวอร์ชันปัจจุบัน จระเข้ในตำนานยังคงรักษาไว้ แต่ถูกวาดในแบบที่เป็นรองเท้าในรูปแบบสัญลักษณ์ที่คล้ายกับจระเข้แทน โดยด้านหน้าของรองเท้ามีรูปร่างเหมือนจมูกจระเข้ที่ยาว มีรูเล็กๆ สองรูบนที่ดูเหมือนรูจมูก เช่นเดียวกับด้านบน มีรูเล็กๆ สองรูที่ทำให้เหมือนดวงตาของจระเข้และชื่อแบรนด์ก็ยังคงในตำแหน่งเดิมไม่มีการเปลี่ยนแปลง

 

3.Red Bull
ถ้าจะเล่าถึงประวัติของโลโก้ Red Bull ต้องย้อนกลับไปในปี 1987 Dietrich Mateschitz นักธุรกิจมหาเศรษฐีชาวออสเตรียได้ลองชิมเครื่องดื่มชูกำลังของไทยที่มีชื่อว่า “กระทิงแดง” เขาประทับใจกับเครื่องดื่มชนิดนี้มากจนเกิดไอเดียเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ใหม่ขึ้นมาแทบจะทันที เขาตกลงร่วมมือกับผู้สร้างกระทิงแดง คุณเฉลียว อยู่วิทยา เพื่อเผยแพร่เครื่องดื่มชนิดนี้ให้เป็นที่รู้จักไปทั่วโลก โดยคุณเฉลียวได้คิดค้นเครื่องดื่มชนิดนี้ขึ้นมาเพื่อช่วยเติมพลังให้กับชาวนา คนงาน คนขับรถ Dietrich ได้นำเครื่องดื่มกระทิงแดงมาปรับใหม่เพื่อตอบสนองความต้องการของทุกคน ในปี 1984 หุ้นส่วนทั้งสองได้ก่อตั้ง Red Bull ขึ้น และทุกอย่างก็ดำเนินต่อไปนับจากนั้น โดยโลโก้ ของ Red Bull มีรูปกระทิงดุสองตัวอยู่ด้านหน้าวงกลมสีทอง ซึ่งสื่อถึงความแข็งแกร่ง ภายใต้ตราสัญลักษณ์ที่น่าประทับใจเป็ยชื่อแบรนด์ว่า Red Bull สัญลักษณ์กระทิงแดงเป็นสัญลักษณ์ของคุณธรรมในการทำงาน ความแข็งแกร่ง ความมั่นใจ ความมั่นคง และความอดทน ในบางประเทศ ซึ่งในบางความหมายสัญลักษณ์กระทิงยังเป็นสัญลักษณ์ของความอุดมสมบูรณ์ การทำฟาร์ม การทำงานเป็นทีม และการช่วยเหลือผู้อื่นอีกด้วย และด้วยวิสัยทัศน์ที่ชัดเจนที่ถ่ายทอดทุกอย่างไว้ในโลโก้ ผลิตภัณฑ์ของ Red Bull เป็นที่คุ้นเคยในเกือบทุกประเทศในปัจจุบัน เนื่องจากโลโก้ของ Red Bull ไม่เคยมีการเปลี่ยนแปลงเลยนับตั้งแต่ก่อตั้งนั่นเอง



4.WWF
WFF หรือ World Wide Fund for Nature กองทุนสัตว์ป่าโลกสากล เป็นองค์การอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมระหว่างประเทศ โดยยับยั้งการทำลายสิ่งแวดล้อม และสนับสนุนให้มนุษย์อยู่ร่วมกับธรรมชาติ และใช้พลังงานทดแทน โดยองค์กรนี้มีโลโก้เป็นแพนด้ายักษ์มาตลอด ตั้งแต่ปี 1961 เซอร์ปีเตอร์ สก็อตต์ ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ก่อตั้งได้วาดโลโก้ตัวแรก มีแรงบันดาลใจจากสัตว์ที่สวยงาม ใกล้สูญพันธุ์ และเป็นที่รักของผู้คนทั่วโลกด้วยคุณสมบัติที่น่าดึงดูดใจ อีกทั้งยังยังต้องการสัตว์ที่สะดุดตาเมื่อพิมพ์เป็นขาวดำเพื่อประหยัดต้นทุนการพิมพ์ จึงได้ Chi-Chi แพนด้ายักษ์ที่เดินทางมาถึงสวนสัตว์ลอนดอนในปี 1961 เป็นต้นแบบให้โลโก้ของ WFF ถือว่าเป็นสัญลักษณ์ที่จดจำได้ง่ายและสามารถเอาชนะอุปสรรคด้านภาษาได้ จึงตกลงกันว่ารูปร่างและสีสันที่โดดเด่นของ Chi-Chi จะทำให้โลโก้ขององค์กรเป็นที่จดจำได้

5.LACOSTE
บริษัทเสื้อผ้า LACOSTE ก่อตั้งขึ้นเพื่อผลิตเสื้อเทนนิสในตอนแรก แต่ปัจจุบันผลิตภัณฑ์ของบริษัทมีความหลากหลายมากไม่ว่าจะเป็นรองเท้า น้ำหอม ผลิตภัณฑ์จากเครื่องหนัง นาฬิกา และแว่นตา เป็นต้น แน่นอนว่าถ้านึกถึง LACOSTE ก็จะคิดถึงรูปจระเข้สีเขียวที่เป็นสัญลักษณ์ของแบรนด์นี้ โลโก้จระเข้ได้ถูกนำมาประดับบนเสื้อโปโลเทนนิสเป็นครั้งแรกในปี 1926 และนับแต่นั้นมาก็กลายมาเป็นส่วนหนึ่งของเอกลักษณ์ของ LACOSTE มาตลอดจนถึงปัจุบัน เหตุผลที่ LACOSTE ใช้โลโก้จระเข้นั้นมีเรื่องราวมาจากหนึ่งในผู้ก่อตั้งซึ่งเป็นอัจฉริยะด้านเทนนิส René Lacoste ในปี 1923 กัปตันทีมของ René กล่าวว่าเขาจะซื้อกระเป๋าหนังจระเข้ให้ หากเขาชนะการแข่งขันครั้งต่อไป แต่น่าเสียดายที่ René ไม่ได้รับชัยชนะในครั้งนั้น แต่ทำให้หลายคนเริ่มพูดกันว่าเขามีความมุ่งมั่นและความแข็งแกร่งเหมือน “จระเข้” จึงทำให้สื่ออเมริกันเริ่มใช้ชื่อจระเข้ อยู่บ่อยๆ เมื่อพูดถึง René โลโก้ Lacoste จึงถูกใช้ในปี 1933 โดยเป็นภาพจระเข้ที่มีรายละเอียดเป็นพิเศษ มีหางยกขึ้นและปากที่อ้ากว้าง สัตว์ชนิดนี้วางในแนวนอนบนเครื่องหมายตราสินค้า โดยหันไปทางขวามือ ปัจจุบัน Lacoste ยังใช้โลโก้ที่ปรับเปลี่ยนครั้งล่าสุดเมื่อปี 2011

 

6.NBC
NBC ก่อตั้งขึ้นในปี 1926 และเป็นที่รู้จักในฐานะเครือข่ายโทรทัศน์รายใหญ่ที่เก่าแก่ที่สุดในสหรัฐอเมริกา เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางจากโลโก้ที่ไม่เหมือนใคร ซึ่งฝากความประทับใจไว้ทั่วโลกด้วยการออกแบบที่มีสไตล์อย่างโลโก้รูปนกยูงที่เป็นสัญลักษณ์อันโด่งดัง แต่ต้องบอกก่อนเลยว่าก่อน NBC จะมีโลโก้เป็นรูปนกยูง โลโก้ของแบรนด์ก็เป็นรูปแแบบอื่นมาก่อน จนกระทั่งในปี 1956 Herb Lubalin และ John J. Graham แห่ง Sudler & Hennessey ได้เข้ามาออกแบบโลโก้ของ NBC ให้ใหม่ โดยใช้แนวคิดของสัตว์อย่างนกยูง ออกแบบมีขนสีสันสดใส 11 เส้นซึ่งโดดเด่นตัดกับพื้นหลังสีขาว ใช้รูปนกสีขาวสะดุดตาตัดกับขนหางสีสันสดใส โดยมีลูกบอลแหลมเล็กๆ ที่ปลายขนแต่ละเส้น แล้วก็เลิกใช้ไปในปี 1975 จนมาถึงปี 1979 NBC ก็กลับมาใช้โลโก้ที่มีนกยูงจนมาถึงปัจจุบัน สำหรับ NBC แล้วนกยูงตัวนี้นี้ไม่เพียงแต่เป็นสัญลักษณ์ของความคิดสร้างสรรค์เท่านั้น แต่ยังเป็นตัวแทนของเครือข่ายต่างๆ อีกด้วย โดยโลโก้ล่าสุดมีนกยูงที่ใหญ่ขึ้นจากเดิมเพื่อให้ดูดีขึ้นและทำให้โลโก้มีมิติสามมิติและมีปริมาตรเพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นเวอร์ชันที่ NBC ใช้มาเกือบสิบปีแล้ว



7.Nestle
Nestlé เริ่มต้นขึ้นในปี 1867 เมื่อผู้ก่อตั้ง Nestlé ได้คิดค้น "Farine Lactee Henry Nestlé" ซึ่งช่วยชีวิตเด็กที่แพ้นมแม่และนมวัวได้ ภายในระยะเวลาอันสั้น สูตรของ Nestlé ก็ได้รับการยอมรับและในไม่ช้าก็วางจำหน่ายในหลายประเทศในยุโรป ในปี 1867 Henri Nestlé ได้ตั้งชื่อบริษัทเป็นนามสกุลของตัวเองและตัดสินใจใช้ตราประจำตระกูลเป็นโลโก้ของบริษัท โดยมีรูปรังนกและลูกนก เนื่องจากคำว่า Nestlé ในภาษาสวิสแปลว่า "รังเล็ก" โลโก้ของ Nestlé ได้รับการออกแบบใหม่หลายครั้งตลอดประวัติศาสตร์อันยาวนานของบริษัท แต่สัญลักษณ์อย่างรูปรังนกยังคงไม่เปลี่ยนแปลงมานานกว่าศตวรรษ ที่จะเปลี่ยนหลักๆ คงจะเป็นเฉดสีที่ปัจจุบัน เฉดสีน้ำตาลโอ๊ค ซึ่งสะท้อนสีของกิ่งไม้ได้ดีเยี่ยมและทำให้โลโก้ดูอบอุ่นขึ้น



8.Firefox
Mozilla Firefox หรือ Firefox เป็นเว็บเบราว์เซอร์ที่สามารถใช้ได้ในหลายระบบปฏิบัติการ โดยโลโก้ของ Firefox มีการเปลี่ยนแปลงอยู่หลายครั้ง โดยครั้งแรกโลโก้ Firefox ถือกำเนิดขึ้นในปี 2002 แต่ใช้เป็นชื่อ Phoenix แต่ก็ต้องเปลี่ยนชื่อและโลโก้ที่เป็นรูปนกฟีนิกส์ใหม่เนื่องจากมีปัญหาเรื่องเครื่องหมายการค้า จาก Phoenix จึงกลายเป็น Firebird แต่ก็ยังไม่เข้ารูปเข้ารอยจนในที่สุดก็มาจบที่ Firefox ถือเป็นจุดกำเนิดของโลโก้อันเป็นสัญลักษณ์ที่เราคุ้นเคยกันในปัจจุบัน ในโลโก้เวอร์ชันล่าสุด โลโก้ได้พัฒนาให้เรียบง่ายและนามธรรมมากขึ้น แต่ยังคงรักษาภาพลักษณ์อันเป็นเอกลักษณ์ไว้ หางจิ้งจอกได้กลายมาเป็นเส้นสายที่ดูไหลลื่นขึ้น มีลักษณะล้อมรอบโลกไว้อย่างไล่ระดับ เป็นสัญลักษณ์แห่งความน่าเชื่อถือ ความเร็ว และชุมชนทั่วโลกที่ยังคงสนับสนุนและพัฒนาเบราว์เซอร์ Mozilla Firefox ต่อไป

 

9.PUMA
PUMA เป็นบริษัทผลิตเสื้อผ้าและเสื้อผ้ากีฬา จากประเทศเยอรมนี โดยก่อตั้งเมื่อปี ค.ศ. 1924 โดยสองพี่น้องตระกูล Dassler Adi Dassler และน้องชาย Rudolf Dassler ในนามของบริษัท ADIDAS ต่อมาในปี ค.ศ. 1948 ด้วยผลประโยชน์ Rudolf Dassler ตัดสินใจแยกตัวออกมาตั้งบริษัทใหม่เอง เป็นผู้ผลิตรองเท้าและอุปกรณ์กีฬาจากรองเท้าและอุปกรณ์กีฬา ต่อมาก็ได้ผลิตเสื้อผ้าขึ้น และกลายเป็นยี่ห้อที่ได้รับความนิยมอย่างสูง ในแวดวงดนตรีฮิปฮอปและการทำกราฟฟิตี้ ทั้งในและนอกสหรัฐอเมริกา ตั้งแต่ช่วงทศวรรษ 1970-1980 และยังคงความนิยมมาจนถึงทุกวันนี้ โดยทางแบรนด์ใช้ "PUMA" หรือ สิงโตภูเขา เป็นสัญลักษณ์ เนื่องจาก PUMA เป็นสัตว์ที่ปราดเปรียวกระฉับกระเฉงสามารถปีนป่ายภูเขาได้เป็นอย่างดี ในปี 2003 เป็นปีล่าสุดที่ PUMA ได้มีการเปลี่ยนแปลโลโก้ โลโก้ยังคงมีเอกลักษณ์ของ PUMA ที่กำลังกระโดดอยู่ สื่อถึงความแข็งแกร่งและความคล่องแคล่ว

 

10.LAMBORGHINI
LAMBORGHINI เป็นชื่อของผู้ผลิตรถยนต์หรูชื่อดังของยุโรปรายหนึ่ง ซึ่งก่อตั้งขึ้นในปี 1963 ในอิตาลี บริษัทผลิตรถยนต์สมรรถนะสูงซึ่งถือเป็นรถยนต์ที่เร็วที่สุดและมีสไตล์ที่สุดในโลก นอกจากเรื่องรถที่ยังเป็นเอกลักษณ์แล้ว สัตว์ที่ปรากฏบนโลโก้ LAMBORGHINI อย่างกระทิง ก็เป็นที่ประจักษ์ไม่แพ้กัน ซึ่ง FERRUCCIO LAMBORGHINI ผู้ก่อตั้งแบรนด์เป็นผู้เลือกสรรด้วยตนเอง เนื่องจากราศีของเขาคือราศีพฤษภ อีกทั้งสัตว์ชนิดนี้ยังเป็นตัวแทนของความแข็งแกร่งและความมุ่งมั่น ซึ่งสะท้อนถึงลักษณะเฉพาะของบริษัทได้อย่างดีเยี่ยม ซึ่งล่าสุด LAMBORGHINI เพิ่งได้มีการปรับเปลี่ยนโลโก้ไม่นานมานี้ เป็นการปรับปรุงจากโลโก้เก่าให้มีความทันสมัยยิ่งขึ้น เปลี่ยนเฉดสีทองให้ดูนุ่มนวลและสงบ เน้นรูปทรงโค้งมน เงาบนตัวกระทิงสีทองเงาถูกแทนที่ด้วยเงาสีดำแทน และตัวฟอนต์กับขอบโลโก้ยังบางลงอีกด้วย